ถ้าคืนนี้เราต้องอยู่บ้านลำพังคนเดียว คนเดียวจริงๆ จะทำอะไรดี ใครๆหลายคนคงอยากรู้ หญิงสาว(น้อย)อย่างเราจะทำอะไรบ้าง ก่อนอื่นสิ่งที่จะทำมันต้องทำให้เรามีความสุข จริงมะ ความกลัว ความเหงา ลืมม้นไปได้เลย เพราะมันเป็นเหตุแห่งทุกข์(ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่นั่งหน้าคอมพ์อยู่นี่เพราะแก้เหงาหรือเปล่าก็ไม่รู้) เอาละเป็นว่านี่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ชอบทำ หลังจากนั้น เปิดทีวีดู มีความบันเทิง ความรู้และข่าวสารต่างๆอยู่ในนั้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องบันเทิงซะมากกว่า มีความรู้บ้างก็ได้เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราไร้สาระ(บางคนเคยกล่าวหาเรา) รายการทีวีที่ชอบดูมากที่สุดคือซีรี่ส์C.S.I. ทั้ง 3 ภาคทางช่อง AXN มันสนุกตรงที่ว่าสุดท้ายแล้วคนเลวคนร้ายก็ต้องถูกลงโทษ ไม่เหมือนบางเรื่องพระเอกนางเอกถูกรังแกทำร้ายตั้งแต่ต้นจนเกือบจบ นอกจากนี้ก็ดูซีรี่ส์ที่ทำให้หัวเราะได้ตลอด เคยดูมั้ยเรื่องHow I met your mother, Two and o haft man,Friends ถ้ายังไม่เคยละก็ รีบดูซะแล้วค่อยมาหัวเราะสู่กันฟัง พอดึกหน่อย ก็จะมีหนังสนุกๆมากมาย ทั้งโรแมนติก ทั้งลึกลับ พูดถึงเรื่องความสุข ได้ดูหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อเรื่อง Everybody's fine เป็นเรื่องราวของพ่อที่เลี้ยงดูลูกทั้ง 4 คนอย่างเข้มงวดและคาดหวังในตัวลูกทุกคน เมื่อลูกโตออกไปใช้ชีวิตตามลำพังในเมืองอื่นๆก็จะส่งข่าวมาบ้านว่าการงานเป็นไปด้วยดี หลังจากภรรยาเสียชีวิตแล้วเขาจึงออกเดินทางไปเยี่ยมลูกๆ ประโยคที่เขาถามลูกทุกคนคือ Are you happy?ซึ่งลูกทุกคนจะตอบเหมือนกันหมดว่าเขามีความสุขดี ถึงแม้ว่าหน้าที่การงานอาจไม่เป็นไปตามที่พ่อคาดหวัง แต่เขาก็มีความสุขดี
ก่อนเข้านอน หลังจากสวดมนต์ไหว้พระแล้ว(ก็มีสาระนะ)ต้องอ่านหนังสือก่อน เป็นนักอ่านเหมือนกัน อ่านทุกอย่าง นิยาย การ์ตูน ปรัชญา ธรรมะ วรรณคดี นิยายล่าสุดที่อ่านจบคือ บาดาลและเทวปักษา ขอแนะนำ ทั้งสนุก ให้ทั้งความรู้และหลักการใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาด้วย ตอนนี้ที่กำลังอ่านอยู่นิทานชาดก แล้วจะเล่าให้ฟังทีหลัง
เห็มมั้ยการทำให้ตัวเองมีความสุขนะ ทำได้ง่ายๆ เดี๋ยวนี้เวลาเจอใครเราก็จะบอกว่าขอให้สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขนะ
วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554
แรงบันดาลใจ
วันเลี้ยงรุ่นที่ผ่านมาได้พบเพื่อนหลายคน ได้พูดคุยกันหลายคนหลายอย่าง ได้ทั้งความสนุก ได้สาระบ้าง ไร้สาระบ้าง ได้รับไออุ่นของความรัก ความคิดถึง ความหวังดีที่อบอวลอยู่ ในงานเลี้ยงวันนั้น ทำให้เกิดแรงบันดาลใจว่า เราจะต้องทำอะไรบางอย่าง อะไรที่ทำให้เราจดจำสิ่งต่างๆอย่างมีความหมายและมีความสุข แน่นอนเราจะต้องจดจำแต่เรื่องดีๆแหละ นี่คือที่มาของ THE SIXTY'S PROJECT บางครั้งอาจจะเป็น THE SIXTEEN'S PROJECT บ้างถ้าตอนนั้น I feel I'm just sixteen.
PROJECT นี้รวมถึงเพื่อนทุกสถาบัน ทุกวัย และอาจเป็นเรื่องของคุณเอง ก็ได้ติดตามดู ให้ดีน้า ถ้าใครอ่านแล้วอยากร่วม PROJECT ด้วยก็ยินดีมากเลย
PROJECT นี้รวมถึงเพื่อนทุกสถาบัน ทุกวัย และอาจเป็นเรื่องของคุณเอง ก็ได้ติดตามดู ให้ดีน้า ถ้าใครอ่านแล้วอยากร่วม PROJECT ด้วยก็ยินดีมากเลย
Sixty's Romance
เมื่อวานนี้หลังจากขึ้น Title แล้วก็คิดว่าเราจะเริ่มยังไงดีน้า แต่ละ
Project ต้องมีภาพประกอปจึงจะ Perfect(คิดเอาเอง) เช้าวันนี้ก็เลย
ออกไป ถ่ายภาพนอกสถานที่(สวนหลังบ้าน) โดยใช้มือเหยียดไปสุดแขน แล้วถ่ายรูปตัวเอง ปรากฎว่าเห็นแต่หน้าตัวเองเต็มจอ ไม่ได้การ ต้องลดความอ้วนก่อน ฉุกเฉิน
กลับมาเข้าเรื่องกันก่อน หลังจากปิด Blog แล้ว ก็นั่ง(นอนบ้าง)ดูหนังช่องโปรด บังเอิญจริงๆเจอหนังเข้ากับเหตุการณ์พอดี หนังเรื่องChance of a lifetime แสดงโดย Leslie Nielson, Betty White เป็นหนังที่สนุกและน่ารักมาก ตัวเอกอยู่ในวัย Sixty ทั้งคู่ สนุกตรงนี้แหละ สมมุติตัวเองเป็นนางเอกเสียเลย(เก๋ใช่มั้ย) แต่ก็ไม่ทุกตอนหรอกนะนางเอกคือ Everlyin หลังจากสามีเสียชีวิตแล้ว ก็ทำงานอย่างหนักเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง เจ้าระเบียบ ไม่เคยใช้เวลาให้สนุกสนานเลย วันหนึ่งหมอแจ้งว่าเป็นมะเร็งจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เธอ
ช็อค แบบสติแตกไปเลย จึงตัดสินใจไป vacation ที่เม็กซิโก และที่นั่นเอง เธอได้พบกับ Loyd พ่อหม้ายซึ่งเบื่อหน่ายต่อการไล่จับของสาว(แก่)ทั้งหลาย Everlyin ซึ่งทำตัวให้สนุกสนานก่อนตายซึ่งLoydกลับประทับใจ เขาบอกว่านี่แหละคือคนที่เขาต้องการ มีอารมณ์ขันและหัวเราะเวลาฟังเขาเล่าเรื่องตลก ทำให้เราคิดว่าเวลาใครเล่าเรื่องอะไรให้ฟังก็ควรตั้งใจฟัง ถ้าเป็นเรื่องตลกก็ต้องหัวเราะ(ถึงจะฝืดบ้างก็ไม่เป็นไร) แล้วทั้งคู่ก็ Fall in love แต่ ต้องมีแต่ ถ้าไม่มีมันจะจบเร็วไป หมอกลับโทรมาบอกว่า วินิจฉัยโรคผิด เธอไม่เป็นอะไรเลย ตอนนี้ก็ช็อคอีกครั้ง จึง ตัดสินใจหนีกลับทันที ส่วนLoydซึ่งอยู่คนละเมืองกันก็พยายามตามหาจนพบ แต่เธอปฏิเสธเพราะยังสับสนอยู่ เรืองก็ดำเนินแบบหนังทั่วไปซักพัก ผู้ที่แนะนำให้คำปรึกษากลับเป็นลูกชายของเธอเอง (ดังนั้น เราควรฟังลูกชายของเราบ้าง จะดี)หนังก็จบแบบ Happy ending ทีนี้รู้แล้วใช่มะว่าทำไมถึงใช้ตัวอักษรสีชมภู ....Sixty's Romance
If you've got silvers in your hair and/or romance in your heart, microwave your popcorn,curl up with your honey and prepare yourself for a treat.
Project ต้องมีภาพประกอปจึงจะ Perfect(คิดเอาเอง) เช้าวันนี้ก็เลย
ออกไป ถ่ายภาพนอกสถานที่(สวนหลังบ้าน) โดยใช้มือเหยียดไปสุดแขน แล้วถ่ายรูปตัวเอง ปรากฎว่าเห็นแต่หน้าตัวเองเต็มจอ ไม่ได้การ ต้องลดความอ้วนก่อน ฉุกเฉิน
กลับมาเข้าเรื่องกันก่อน หลังจากปิด Blog แล้ว ก็นั่ง(นอนบ้าง)ดูหนังช่องโปรด บังเอิญจริงๆเจอหนังเข้ากับเหตุการณ์พอดี หนังเรื่องChance of a lifetime แสดงโดย Leslie Nielson, Betty White เป็นหนังที่สนุกและน่ารักมาก ตัวเอกอยู่ในวัย Sixty ทั้งคู่ สนุกตรงนี้แหละ สมมุติตัวเองเป็นนางเอกเสียเลย(เก๋ใช่มั้ย) แต่ก็ไม่ทุกตอนหรอกนะนางเอกคือ Everlyin หลังจากสามีเสียชีวิตแล้ว ก็ทำงานอย่างหนักเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง เจ้าระเบียบ ไม่เคยใช้เวลาให้สนุกสนานเลย วันหนึ่งหมอแจ้งว่าเป็นมะเร็งจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เธอ
ช็อค แบบสติแตกไปเลย จึงตัดสินใจไป vacation ที่เม็กซิโก และที่นั่นเอง เธอได้พบกับ Loyd พ่อหม้ายซึ่งเบื่อหน่ายต่อการไล่จับของสาว(แก่)ทั้งหลาย Everlyin ซึ่งทำตัวให้สนุกสนานก่อนตายซึ่งLoydกลับประทับใจ เขาบอกว่านี่แหละคือคนที่เขาต้องการ มีอารมณ์ขันและหัวเราะเวลาฟังเขาเล่าเรื่องตลก ทำให้เราคิดว่าเวลาใครเล่าเรื่องอะไรให้ฟังก็ควรตั้งใจฟัง ถ้าเป็นเรื่องตลกก็ต้องหัวเราะ(ถึงจะฝืดบ้างก็ไม่เป็นไร) แล้วทั้งคู่ก็ Fall in love แต่ ต้องมีแต่ ถ้าไม่มีมันจะจบเร็วไป หมอกลับโทรมาบอกว่า วินิจฉัยโรคผิด เธอไม่เป็นอะไรเลย ตอนนี้ก็ช็อคอีกครั้ง จึง ตัดสินใจหนีกลับทันที ส่วนLoydซึ่งอยู่คนละเมืองกันก็พยายามตามหาจนพบ แต่เธอปฏิเสธเพราะยังสับสนอยู่ เรืองก็ดำเนินแบบหนังทั่วไปซักพัก ผู้ที่แนะนำให้คำปรึกษากลับเป็นลูกชายของเธอเอง (ดังนั้น เราควรฟังลูกชายของเราบ้าง จะดี)หนังก็จบแบบ Happy ending ทีนี้รู้แล้วใช่มะว่าทำไมถึงใช้ตัวอักษรสีชมภู ....Sixty's Romance
If you've got silvers in your hair and/or romance in your heart, microwave your popcorn,curl up with your honey and prepare yourself for a treat.
เ
ดอกโศกบานในสวน
เห็นดอกโศกตกดอกออกระดะ
โศกปะทะสองซ้ำต้องทำไฉน
อันโศกต้นปนเข้ากับโศกใจ
ทำไฉนโศกเราจักเบาบาง
ขึ้นต้นด้วยบทกลอนแบบนี้ อย่าเข้าใจว่าอยู่ในอารมณ์โศกเศร้าละ วันนี้เดินอยู่ในสวนที่บ้าน เห็นต้นโศกกำลังออกดอกสวยงามมาก ก็เลยคิดถึงกลอนบทนี้ เคยชอบมาก ชอบมานาน นานมาก ตั้งแต่ยังสวย เอ้อ--ไม่ใช่ ตั้งแต่ยังสาวโน่นแล้ว พอมีบ้านของตัวเองก็เลยปลูกต้นโศกไว้หลายต้น มีหลายชนิดด้วยกัน ต้นที่มีดอกสวยที่สุดคือโศกระย้าจะเป็นช่อห้อยยาวเป็นพวงมีสีส้มสดอมแดง ส่วนต้นที่ชอบมากคือโศกเขาหรือโศกเข็ม ที่มีชื่ออย่างนี้เพราะดอกของมันเหมือนกับดอกเข็มช่อแน่นๆและตามธรรมชาติมัน จะอยู่บนเขา เคยเห็นครั้งแรกที่จันทบุรี ตอนนั้นไปน้ำตกกระทิง (คงเดาถูกนะว่าไปกับใคร) พากันขึ้นเขาเพื่อไปดูต้นน้ำ เห็นโศกต้นนี้ขึ้นอยู่เต็มไปหมดและกำลังมีดอกพอดี สวยงามมากเลย ตอนหลังพอได้ต้นมาปลูกที่บ้าน ดีใจมากเลย ส่วนโศกต้นอื่นๆก็มีโศกสปัน โศกบัว โศกเหลือง โศกขาว โศกน้ำ ส่วนมากจะเริ่มออกดอกตั้งแต่ปลายมกราไปจนถึงมีนา วันนี้ตั้งใจจะเก็บรูปดอกโศกในสวนมาให้ดู ก็สายไปนิดนึง เพราะบางต้นมันร่วงโรยไปแล้ว เสียดายจัง ท่านพุทธทาสถึงบอกไว้ ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่รอคอย ต้องที่นี่ ตรงนี้และเดี๋ยวนี้ (สาธุ)
บางท่านบอกว่าต้นโศกไม่ควรนำมาปลูกไว้ในบ้าน จะทำให้ชีวิตพบแต่ความโศกเศร้า ก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล สำหรับเราเมื่อถึงคราวที่มันออกดอกก็แสนจะสุขใจ บางครั้งอยู่ใต้ต้นโศกยังเคลิ้มเหมือนวาสิฏฐีกำลังรอกามนิตอยู่แน่ะ
ต้นรักดอกโศก
น้ำค้างพรมลมชายระบายโบก
หอมดอกโศกเศร้าสร้อยระห้อยหวน
เหมือนโศกร้างห่างเหเสน่ห์นวล
มาถึงสวนโศกช้ำระกำทรวง
ถึงโศกแต่ก็สุขใช่มั้ยละ วันนี้เลยค้นหารูปเก่าๆที่ดอกมันยังสวยอยู่มาให้ดูแล้วจะรักดอกโศกเหมือนเรา คนเขาว่า ดอกรักบานในใจคนทั้งโลก แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน แต่เราว่า ดอกโศกบานสะพรั่งอยู่ในสวน หอมรัญจวนดอกรักในใจฉัน ก็ดอกโศกมันอยู่ในสวนหมดแล้วจะเหลือมาอยู่ในใจได้ยังไงละ มาปลูกต้นโศกกันเถอะนะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)